Translate

Tuesday, February 5, 2013

อากาศ อารมณ์

ตอนอยู่เมืองไทย ไม่เคยได้สังเกตเลยว่าอากาศมันมีผลกะอารมณ์ของคนเรามากขนาดไหน
คงเป็นเพราะ เมืองไทย มีอยู่ฤดูเดียวคือฤดูร้อน(ตามความคิดของเรา ถึงเค้าจะว่ามี3ฤดูตามหลัก

ก็เหอะ) คือมันก็คล้ายๆกัน เสื้อผ้าชุดเดียวกัน ใส่ทั้งปีก็ได้ ไม่แปลก
พอมาอยู่ที่นี่ มันมี4ฤดู ที่เห็นว่ามันแตกต่างกันมาก ชัดเจน ใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง ก็ผลิจริง ร่วงจริง
หนาวจริง ร้อนจริง พอเปลี่ยนฤดูปุ๊บ ก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่ตามไปด้วย เมื่อก่อนตอนใช้เงินแบบไม่คิด พอเปลี่ยนฤดู เราเอาเสื้อผ้าcollectionฤดูเก่าทิ้ง/บริจาคหมดเลย แล้วก็หาซื้อcollectionใหม่



ของฤดูนั้น ดีที่มันไม่แพงมาก เลยไม่ค่อยเสียดาย แต่ตอนนี้ไม่แล้วใช้ของเก่าไป สำนึกได้เลย 

hehe ^^




 
Winter Love Song




ตอนอยู่เชียงใหม่ หนาวแบบไทยๆ ชอบนะ เลยคิดว่าตัวเองชอบหน้าหนาว พอมาอยู่นี่ 

เจอหนาวติดลบ หนาวของจริง กลายเป็นคนเกลียดหน้าหนาวไปเลย(ชอบอยู่อย่างเดียวตอนหิมะตกสวยๆ) รักฤดูร้อนไปซะงั้น เฝ้านับวันรอ เมื่อไหร่จะหน้าร้อน หน้าหนาวไม่อยากออกไปไหนเลย
กินกะนอนอยู่บ้านแค่นั้น ทำให้อ้วนตามไปด้วย(ไม่สิ ต้องบอกว่าสะสมพลังงานให้ร่างกายอบอุ่น) 

หน้าหนาวที่นี่ พระอาทิตย์ตก4โมงเย็น เคยตื่นมาสักบ่ายๆ อาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ 

ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย พระอาทิตย์ตกแล้วซะงั้น 0_o ไม่เหมือนหน้าร้อน 2ทุ่มก็ยังสว่างอยู่เลย 

ได้ทำอะไรเยอะแยะมากมาย 




                                             Spring Waltz
ตอนมาเรียนที่นิวยอร์คใหม่ๆ มีอาจารย์มี่สอนภาษา เคยบอกว่า พออากาศหนาวก็ทำให้คนหดหู่ 

เลยเริ่มสังเกตุตัวเอง ก็พบว่า มันจริงมากๆ วันไหนอากาศไม่ดี มืดๆ ไม่ได้รับแสงอาทิตย์ 

เราจะหดหู่ พอวันไหนอากาศดี ก็จะhappyได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

มันคงไม่แปลกเลยที่จะเห็นคนรวยๆทั้งหลายหรือคนที่retireแล้ว มีบ้านพักอยู่2ที่ เช่น 

หน้าร้อนอยู่ Minnesota ส่วนหน้าหนาวไปอยู่Florida
อร๊ายยย น่าอิฉาจัง เดี๋ยวก่อนเหอะ 

รวยเมื่อไหร่ หน้าร้อนจะอยู่ที่นี่ ส่วนหน้าหนาวจะกลับไปไทยมั่ง

(เออ แล้วรวยที่ว่า เมื่อไหร่ที่อ่ะ ?_?)





Summer Scent
เอาเป็นว่าเอาแค่พรุ่งนี้ก่อนละกัน ขอให้พรุ่งนี้อากาศไม่ได้ทำให้อารมณ์เราหดหู่ 

ขอให้ทำให้เราอารมณ์แจ่มใส เบิกบาน happy สนุกสนาน แค่นี้ละกัน 
อุ้ย...พรุ่งนี้หิมะตก อร๊ายยย...





Autumn in My Heart



เพราะอาศชอบแปรปรวน หัวใจก็เลยปรวนแปร(จากหนังเรื่องSeasons Change)


by Nita =)


Monday, February 4, 2013

Top 10 Lessons for Living from the Wisest Americans


วันนี้ทำงานมา12ชั่วโมงครึ่ง เหนื่อยอ่ะ ไม่มีแรงจะเขียนงานของตัวเอง เอางานของคนอื่นที่เราชอบมาshareให้อ่านละกัน

English version click here

Thai version from pantip

อาจารย์ท่านหนึ่ง ของ Cornell ชื่อ Karl Pillemer ซึ่ง ได้ไปสัมภาษณ์ชาวอเมริกัน ที่อายุเกิน 70 ปีขึ้นไปมากกว่า 1,200 คน โดยคำถามเด็ดนั้นอยู่ที่ว่า “จาก ประสบการณ์ชั่วชีวิตคุณ อะไรคือบทเรียนสำคัญที่สุดที่อยากจะฝากไว้ให้ลูกหลาน” แล้ว ก็นำมาเขียนเป็นหนังสือชื่อ 30 Lessons for Living ครับ แต่เขาได้คัดเลือกบทเรียนสำคัญ 10 ประการ ที่โดดเด่นเอาไว้ครับ โดยบทเรียนทั้ง 10 ประการ ประกอบด้วย

1. ให้ เลือกอาชีพโดยดูจากความต้องการ ภายในมากกว่าผลตอบแทนด้านการ เงิน โดยบรรดาผู้สูงวัยกล่าวว่าความผิดพลาดสำคัญในการเลือกอาชีพของเขา คือ การเลือกอาชีพโดยดูจากผลตอบแทนมากกว่าสิ่งที่ชอบและคุณค่าของอาชีพ

2. ให้ ปฏิบัติต่อร่างกายเหมือนกับต้อง ใช้งานไปอีกร้อยปี โดยให้ลดและเลิกพฤติกรรมที่ทำ ร้ายร่างกายเราไม่ว่าจะเป็นการ สูบบุหรี่ กินอาหารที่ไม่ดี หรือไม่ออกกำลังกาย พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เราเสียชีวิตในฉับพลัน แต่ทำให้เราเกิดความทรมานเมื่อ สูงวัย

3. ตอบ ตกลงต่อโอกาสที่เข้ามา โดยเมื่อมีโอกาสหรือความท้าทาย เข้ามา ต้องอย่า ปฏิเสธครับ เพราะส่วนใหญ่มักจะมาเสียใจหรือเสียดายในภายหลัง

4. เลือก คู่ด้วยความระมัดระวัง อย่ารีบร้อนตัดสินใจ ใช้เวลาในการดูและทำความรู้จักคนที่เราจะอยู่ด้วย อย่ารีบด่วนตัดสินใจที่จะอยู่ ด้วยกันจนกว่าจะรู้จักอีกฝ่าย หนึ่งอย่างถ่องแท้

5. เที่ยวให้มากไว้ (ชอบมากครับ) เมื่อ มีโอกาสให้เดินทาง ครับ คนสูงวัยส่วนใหญ่จะมองย้อนกลับมายังโอกาสต่างๆ ที่ได้ท่องเที่ยวเดินทาง และมองว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ และมีคุณค่าของชีวิตเลยทีเดียว

6. ให้ พูดในสิ่งที่อยากจะพูด เนื่องจากเรามักจะเสียใจและ เสียดาย ว่าไม่ได้พูดในสิ่งที่เราอยากจะพูดกับหลายๆ คน เมื่อไม่มีโอกาส เราจะมีโอกาสแสดงความรู้สึกที่แท้จริงต่อผู้อื่นได้ ก็ต่อเมื่ออีกคนหนึ่งยังมีชีวิต อยู่เท่านั้นนะครับ

7. เวลา เป็นของมีค่า ชีวิตของเรานั้นแสนสั้น แต่ไม่ใช่ให้มานั่งเศร้า นะครับ แต่ให้ ทำในสิ่งที่สำคัญและมีค่าเดี๋ยว นี้ เนื่องจากยิ่งเราอายุมากขึ้น เราจะพบว่าเวลายิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วขึ้น

8. ความ สุขเป็นสิ่งที่เราเลือกเอง ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจาก เงื่อนไขต่างๆ คำแนะนำหนึ่ง ก็คือ จง รับผิดชอบต่อความสุขของตัวเรา เองตลอดชีวิตเรา

9. การ ใช้เวลามานั่งกังวลต่อสิ่ง ต่างๆ นั้นเป็นการเสียเวลา ดังนั้น ให้ หยุดกังวลครับ หรือไม่ก็พยายามลดความกังวลลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความกังวลในสิ่งที่ไม่เกิด ขึ้น

10. คิด เล็ก-อย่าคิดใหญ่ ค่อยๆ ซึมซับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นสิ่งที่ดีในชีวิตเรา และมีความสุขกับสิ่งเหล่านั้นครับ

-----จากคุณ : ต๊อตโตะจัง------

เดี๋ยวถ้ามีเวลาไปหาอ่าน 30 Lessons for Living เต็มๆเลยดีกว่า อ่านแค่10ข้อ ไม่สะใจ
แต่วันนี้ลาแค่นี้ก่อนดีกว่า ง่วงๆๆ

ปล.พรุ่งนี้day off เย้ๆ คงมีแรงมาเขียนสักเรื่อง ^^


Luang Prabang Sun15 Jan 2012 by Nita =)


Sunday, February 3, 2013

10อันดับซีรี่ย์เกาหลีที่ชอบ (My personal top 10 Korean Drama list)

ชอบดูมากกก ซีรี่ย์เกาหลีเนี่ย ทำไมเหรอ?? เพราะมันแป๊ะดีอ่ะ ภาพสวย นักแสดง แสดงเก่ง หล่อ สวย ดูแล้วได้แรงบันดาลใจดี

เวลาจะดูซีรี่ย์เกาหลีเรื่องนึงเนี่ย ต้องขอดูหน้าพระเอกกะนางเอกก่อนนะ ถ้าเราว่าไม่หล่อ ไม่สวย เคมีไม่เข้ากัน ก็ไม่ดู 55 

ม่ะ มาดูว่าเรื่องไหนที่เป็น top tenของเรามั่ง

1.Secret Garden (perfect ที่สุด พระเอกหล่อ รวย นางเอกห้าวๆ น่ารักดี และไม่แอ๊บแบ๊ว โรแมนติค มีความสุขที่สุดเวลาดู จบhappy ending ชอบ)



2.Ghost (ลุ้นตลอดเรื่อง สนุกที่สุด จีซบเท่ห์มากกก เก่งเหมือนไม่ใช่มนุษย์)



3.Full House Take 2 (เพราะโนมินวูคนเดียวเลย จะหล่อเท่ห์เกย์ไปไหน 555 ไม่ใช่เกย์ แต่ชอบในความเหมือนเกย์ดี อิอิ สนุก ตลกดี ภาพสวย เข้าอกเข้าใจแฟนคลับนักร้องดี 555)




4.New Tale of Gisaeng (นี่มันนิยายน้ำเน่าชัดๆ ดูไปน้ำตาซึมไป พระเอกหล่อ หุ่น ดี เท่ห์ นางเอกก็นางฟ้า แต่เรื่องนี้ยาวมากกก กว่าจะจบ)



5.The Woman Who Still Wants To Marry/ Still, Marry Me (ชอบเป็นการส่วนตัวเพราะนางเอกกินเด็ก อิอิ พระเอกคิม บอมก็น่าร๊ากกก)



6.Alice in cheongdam-dong (สารภาพว่า ตอนแรกไม่ชอบ พระเอกเลย อี้ หน้าแก่ ไม่เห็นหล่อเลย ดูไปดูมา ทำไมน่ารักอ่ะ เรื่องนี้ตลกดี ตลก ปนๆโรแมนติค ชอบๆ เพิ่งจบไปอาทิตย์นึงได้มั้ง)



7.Personal taste (ชอบพระLee Min Ho เข้าอกเข้าใจผู้หญิงดี เนื้อเรื่องเรียบง่าย ไม่วุ่นวายมาก)



8.City Hunter(ลุ้นทั้งเรื่องเลยจริงๆ จริงๆจะให้อันดับสูงกว่านี้ ถ้าพระรองไม่ตาย อิอิ)



9.My Girls(ชอบเพราะตลกดี ชอบเพลงประกอบที่เป็นเพลงแร๊พด้วย)



10.Dal Ja's Spring(เรื่องนี้ จริงๆเราไม่ชอบนางเอกนะ เราว่าเค้าทำผมแบบนี้ไม่สวย แต่ก็น่ารักดี นางเอกกินเด็ก อีกแล้ววว ชอบพระเอกไม่หล่อ แต่มีเสน่ห์ดี เรื่องนี้มีสิ่งที่นางร้าย ไม่ใช่ดิ ก็ไม่เชิงนางร้าย ตอนแรกดูร้ายๆ ตอนหลังมาเป็นเพื่อนนางเอก พูดว่า

 "มันไม่ใช่จะได้มาภายในวันเดียวหรอก  เธอจะโตขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น อย่ากังวลไปเลย ทุกคนก็มีเวลาที่เหมาะสมกับตัวเองทั้งนั้น เธอต้องมองไปข้างหน้า เธอต้องต่อสู้ กับสิ่งที่เธอทำพลาดไปแล้ว")



โห!! เป็นไง เจ๋งป่ะ เรานี่ก็บ้าเนอะ ถึงขั้นจดคำพูดนี้ไว้เลย แต่มันเป็นคำพูดที่ประทับใจเราจริงๆนะ ให้แง่คิดดีๆกะเราด้วย

ที่เหลือข้างล่างนี่ ก็ชอบนะ แต่ไม่มากเท่าtop tenที่ว่า เพราะบางเรื่อง ไม่ชอบใจตอนจบ บางเรื่องเครียดไป เศร้าไป หักคะแนน  ให้เป็นอันดับที่11เหมือนกันหมด ^^

-You're beautiful (นี่ไม่รู้จริงๆเหรอว่าผู้หญิงปลอมตัวเป็นผู้ชาย)

-Sungkyunkwan Scandal (นี่อีกๆ ไม่สมจริง)

-Goong / Princess Hours (ชอบพระเอกมากกก เสียดาย ต้องหายหน้าหายตาไปจากวงการเพราะเรื่องยา แต่่เหมือนตอนนี่้เป็นทหารอยู่มั้ง)

-Full House1(ตอนนั้นเรนน่ารักเนอะ)

-Rooftop Prince (ชอบนางเอก นางรักอ่ะ เพลงประกอบก็ชอบสุดๆเลย Jayร้องด้วย ฟังแล้วhappy ^^)



-The Moon that embrace the sun (นางเอกแก่กว่าพระเอกไปไหม ไม่ดิ พระเอกหน้าเด็กไป)

-Brilliant Legacy (เศร้า รันทด แต่นางเอกน่ารักอ่ะ)

-Boys over Flowers (เรื่องเวอร์ไปไหน แต่ยอมให้ เพราะผู้ชายหล่อเยอะดี 55)

-Cain and Abel(ดูแล้วเศร้า รันทด เครียด แต่เพื่อจีซบ)

-What happened in Bali (หักคะแนนจีซบของเราตายตอนจบ เชอะ)

-Something about 1% (ชอบพระเอกกกกก!!!)

มีtop five,top ten,top twenty ซีรี่ย์เกาหลีกันบ้างป่าว ชอบเรื่องอะไรกันมั่งเอ่ย ?? =)

Saturday, February 2, 2013

ว่าด้วยเรื่องของเด็กผู้หญิง (About a Girl)


       วันนี้ไปเดินซื้อของให้หลานมา

จริงๆแล้ว เราเป็นคนเลือกของนานมากกก

ถ้าทำได้ก่อนซื้อต้องดูรีวิวและเทียบราคาของด้วยทุกครั้ง(เรื่องมากและงกนั้นเอง)

เวลาไปซื้อของเลยไม่อยากให้ใครไปด้วย กลัวเค้ารำคาญ 

      
       เดินอยู่นาน ทำให้รู้ว่าเลือกของให้เด็กผู้หญิงนี่ยากจริงๆ 

เพราะอะไรๆของเด็กผู้หญิงก็น่ารักไปหมด

accessories เยอะมาก ของเด็กผู้ชายก็แค่เสืิ้อ กางเกง จบ 

เด็กผู้หญิง มีหมวก โบว์ผูกผม รัดผมต่างๆนานา เออ แต่ทำไมต้องสีชมพูหมดด้วยก็ไม่รู้ 

หวานไปมั้ย ทำสีอื่นออกมาบ้างก็ได้ เด็กผู้หญิงก็ไม่ได้ชอบสีชมพูหมดทุกคนมั้งคะ


       
        จะว่าไป ช่วงนี้เราได้รู้จัก ได้ดูแล ได้เจอเด็กผู้หญิงเยอะเหมือนกันนะเนี่ย 

วันนั้นพาSamไปplaydate Samเป็นเด็กผู้ชายคนเดียว ท่ามกลางเด็กผู้หญิง5 คน 

เราหัวหมุนเลย  เรียกชื่อเด็กผู้หญิงผิดๆถูกๆ งงมาก 


     
         เท่าที่สังเกตุ ชื่อเด็กผู้หญิงยุคนี้เค้านิยมเริ่มต้นด้วยตัวLกันเนอะ เช่น

 Lucy,Lanna,Lyla,Leila,Lanlabelle   หรือไม่ก็ลงท้ายด้วย A เช่น

 Anya,Tara,Beya,Samantha,Sara, Sakura,Mita  อุ้ย!! เราก็แอบintrendนะเนี่ย 

 Nittaya =)



      
        เพื่อนๆล่ะ ถ้ามีลูกผู้หญิง อยากตัั้งชื่อนำหน้าด้วยตัว L หรือลงท้ายด้วยตัว A กันบ้างไหม

วันนี้La La La ไปก่อนละ เจอกันใหม่พรุ่งนี้ ^^





Friday, February 1, 2013

ปฎิทินชีวิต(Calendar of Life)


ก้าวเข้าสู่เดือนที่สองของปี2013แล้ว
อาจจะช้าไปหน่อยที่จะเอาปฏิทินสวยๆ(ฟรีด้วย)มาให้downloadกัน 

แต่ก็ยังดี เหลืออีกตั้ง11เดือนให้ใช้แน่ะ

เรา โหลดปฏิทินจากlinkนี้มาใช้ น่ารักมากๆเลย

http://www.eatdrinkchic.com/post.cfm/free-printable-sweet-new-year-calendar-2013  



อันนี้เป็นอีก25 free 2013 Printable Calendars
http://www.everythingetsy.com/2012/12/25-free-2013-printable-calendars/ 


ใครยังไม่มี(หรือมีแล้วก็ได้)ลองdownloadมาใช้กันก็ได้นะ :) 

พูดถึงปฏิทิน ก็อดคิดถึง ช่วงเวลาต่างๆของชีวิตคนเราไม่ได้ 

เรามักจะถามตัวเองเสมอว่า ชีวิตที่เราเหลืออยู่เราอยากทำอะไร ยังไม่ได้ทำอะไร 

ทุกสิ้นปีก็จะมานั่งคิดว่า ปีนี้ทำอะไรสำเสร็จอย่างที่อยากทำแล้วหรือยัง ปีต่อๆไปเราจะทำอะไร อย่างที่ฝรั่งเค้าจะมี New Year's Resolutions ทุกสิ้นปี/ปีใหม่ 

ปี2012ที่ผ่านมา นับว่าเป็นปีที่ดีสำหรับเรามากๆเลยล่ะ เพราะ 

 1.เราได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนๆที่ไทย หลังจากอยู่เมกามา4ปี 

 2.เราได้เริ่มเรียน Certificate in Children Management ที่NYU-SCPS เรียนมาแล้ว3classes ได้Aหมดเลย
(เย้ๆ แอบภูมิใจเล็กๆ) 

 3.เราได้Driver License ของ New Yok แล้ว สอบครั้งเดียวผ่านด้วย อิอิ(แต่ก็เกือบตกนะ 55)

 ส่วน 2013 New Year's Resolutions ของเราก็คือ 

1.สร้างบ้านที่เชียงใหม่ให้เสร็จประมาณกลางปี 

2.กลับไปไทยชื่นชมบ้านใหม่ประมาณกลางปี 

3.หางานpart timeอีกอย่างทำ หรือไม่ก็เริ่มทำbusinessอะไรสักอย่าง 

 เราอยากเกิดมาแล้วแบบว่า ไม่อยากเสียใจที่ชีวิตนึง นึกเสียดายที่ไม่ได้ทำโน้น นี่ นั้น 
เราถือคติที่ว่า เสียใจ ดีกว่าเสียดายอ่ะ เสียใจเรายังยอมรับได้ ก็ใช้เวลาฟื้นฟูนิดหน่อย 
เสียดายนี่ มันขึ้นอยู่กับเวลา และโอกาส เมื่อเวลาและโอกาสผ่านไปแล้ว เราอาจจะไม่ได้ทำอย่างที่เราอยากทำตลอดชีวิตอีกเลยก็ได้ 

เพื่อนๆล่ะ คิดยังไงกัน ปฏิทินชีวิตของ เพื่อนๆ พ่อแม่พี่น้อง ในปี2013เป็นแบบไหนกันบ้างคะ 

แต่จะเป็นแบบไหน ก็ขอให้เป็นปฏิทินชีวิตที่เลือกได้นะคะ เลือกเอง แล้วภาคภูมิใจในชีวิตที่เลือกเองได้(คำนี้ พ่อเราสอนมา) :)